ที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์ เริ่มเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก ในบทความนี้จะแนะ 6 cloud storage ฟรี ยอดนิยม ว่ามีเจ้าไหนบ้างที่น่าสนใจ
Cloud Storage คืออะไร
คือ เทคโนโลยี Cloud computing โดยเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตออนไลน์มากยิ่งขึ้น ก้อนเมฆที่พูดถึง ก็คือแหล่งจัดเก็บข้อมูลของเรา ส่วนไม้ที่ใช้สอยก็คืออินเตอร์เน็ตที่เราต้องออนไลน์เพื่อที่จะดึงข้อมูลที่เก็บไว้มาใช้งาน แล้วมันต่างจากบริการฝากไฟล์ตรงไหน?
วิธีการทำงานอาจจะคล้ายกัน แต่ขั้นตอนความสะดวกนั้น Cloud มีประสิทธิภาพสูงกว่ามาก การฝากไฟล์ในรูปแบบเดิม จะรับฝากไฟล์ที่สำเร็จรูปแล้ว เช่น รูปภาพ, เสียง, วีดีโอ, ไฟล์ที่ถูกบีบอัด เป็นต้น
แล้วเวลาจะใช้งานก็ต้องดาวน์โหลดลงมาก่อนซึ่งจะเสียเวลามาก แต่สำหรับการจัดเก็บไฟล์ไว้กับ Cloud computing เราสามารถจัดการไฟล์ต่างๆ ได้เหมือนการจัดการไฟล์ในคอมพิวเตอร์ ดังนั้นเราสามารถเข้าไปใช้งานไฟล์ต่างๆ บนเมฆได้ทันที โดยไม่ต้องดาวน์โหลดลงมา
โดยคลาวด์ที่จะพูดถึงเป็นแบบสาธารณะ (Public Cloud) ก็คือ คลาวด์ที่สร้างขึ้นเพื่อให้ทุกคนสามารถใช้งานได้ ซึ่งมีผู้ให้บริการมากมาย ในบทความนี้จะแนะ 6 ผู้ให้บริการยอดนิยมดังนี้
1. Google Drive
บริการฝากไฟล์จากกูเกิล ผู้พัฒนา Search Engine ยักษ์ใหญ่ของโลก กับพื้นที่เริ่มต้นที่ให้มามากถึง 15GB และสามารถจ่ายเงินเพื่อเพิ่มพื้นที่ได้ เริ่มต้นประมาณ 60 บาทต่อเดือนสำหรับพื้นที่ 100GB ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในบริการฝากไฟล์ที่ให้พื้นที่มากและราคาถูกที่สุดในขณะนี้เลยทีเดียว
สามารถใช้ได้ทั้งบนเว็บและแอพฯ อีกทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อกับบริการต่าง ๆ ของกูเกิล ไม่ว่าจะเป็นการแนบไฟล์บน Google Drive เพื่อส่งอีเมลทาง Gmail หรือเก็บไฟล์เอกสารต่าง ๆ ของ Google Docs
Google Drive ให้เพื่อที่ฟรี 15GB
2. Dropbox
บริการฝากไฟล์ยอดนิยมที่มีพื้นที่เริ่มต้นให้มาเพียง 2GB เท่านั้น แต่มีโปรโมชั่นแจกแถมพื้นที่เพิ่มให้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการชวนเพื่อนมาใช้งานหรือโปรโมชั่นอื่น ๆ ที่ทำให้สามารถได้พื้นที่เพิ่มฟรีอีก16 GB เลยทีเดียว หรือถ้าหากต้องการจ่ายเงินเพื่อเพิ่มพื้นที่ก็สามารถทำได้เช่นกัน
โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 270 บาทต่อเดือนสำหรับพื้นที่ 100GB รองรับการใช้งานทั้งบนเว็บและแอพฯ โดยจุดเด่นของ Dropbox ก็คือความอิสระในการฝากและแชร์ไฟล์ที่สามารถนำลิงก์ดาวน์โหลดของไฟล์ที่ฝากไว้ส่งไปให้คนอื่นดาวน์โหลดได้อย่างสะดวกและง่ายดาย แถมยังไม่มีการจำกัดขนาดไฟล์อีกด้วย
Dropbox ฟรี 2GB
3. Box
บริการฝากไฟล์ที่เน้นกลุ่มผู้ใช้ทั้งบุคคลทั่วไปและองค์กร โดยมีพื้นที่เริ่มต้นให้ 10GB รองรับไฟล์ขนาดใหญ่สุดไม่เกิน 250MB สามารถเพิ่มพื้นที่เป็น 100GB (รองรับไฟล์ใหญ่สุด 5GB) ได้ด้วยการจ่ายเงินประมาณ 320 บาทต่อเดือน ส่วนผู้ใช้ในกลุ่มองค์การก็มีให้เลือกได้หลายแพ็กเกจตามลักษณะการใช้งาน สามารถใช้งานได้ทั้งบนเว็บและแอพฯ
Box ฟรี 10GB
4. ADrive
ให้บริการจัดเก็บข้อมูลออนไลน์ฟรีโดยให้พื้นที่เริ่มต้นมากถึง 50GB สามารถใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลาที่มีอินเตอร์เน็ตเข้าถึง มีเครื่องในการค้นหาที่ง่ายและสามารถแก้ไขเอกสารแบบออนไลน์โดยไม่ต้องดาวโหลดลงเครื่อง อัพโหลดทั้งโฟรเดอร์โดยที่ไม่ต้องอัพทีละไฟล์ แม้ว่า หน้าตา(Interface) อาจจะดูธรรมดาไปหน่อย
ADrive ฟรี 50GB
5. OneDrive
บริการฝากไฟล์จากไมโครซอฟท์ ผู้พัฒนา Windows และโปรแกรมตระกูล Office ที่มีพื้นที่เริ่มต้นให้มา 7GB รองรับไฟล์ขนาดใหญ่สุดไม่เกิน 2GB สามารถชวนเพื่อนมาใช้บริการเพื่อรับพื้นที่เพิ่มได้ หรือจะจ่ายเงินเพื่อเพิ่มพื้นที่ได้ เริ่มต้นที่ 65 บาทต่อเดือนสำหรับพื้นที่ 50GB มีจุดเด่นที่ไม่เหมือนบริการของเจ้าอื่น ๆ
คือ สามารถเข้าใช้งานได้บนทุกระบบปฏิบัติการ ทั้ง Windows, Mac, iOS, Android และ Windows Phone ไม่ว่าจะเป็นบนเว็บและแอพฯ รองรับการแชร์ไฟล์แบบสาธารณะ นอกจากนี้ ไฟล์เอกสารต่าง ๆ ที่ทำบนโปรแกรมตระกูล Office นั้นสามารถเก็บไว้บน One Drive เพื่อนำไปเปิดบนอุปกรณ์อื่น ๆ ได้เลย
OneDrive ฟรี 7GB
6. Mega
Mega ก่อตั้งโดย โดย KIM Dotcom เจ้าของเว็บไซต์ Megaupload ได้จดชื่อโดเมนเว็บไซต์ใหม่และเปิดให้บริการแล้วที่ www.mega.co.nz มีพื้นที่ฟรีให้ 50GB บริการฝากไฟล์ขึ้นอินเตอร์เน็ต แต่สิ่งที่เป็นจุดเด่นและแตกต่างจากเว็บไซต์บริการฝากไฟล์ไว้บน Cloud รายอื่นๆ
ก็คือ ทุกไฟล์ต้องผ่านการเข้ารหัสโดยผู้รับไฟล์ปลายทางจะต้องมี Key จากเจ้าของไฟล์ด้วย ถึงจะสามารถเข้าถึงและดาวน์โหลดไฟล์ได้ซึ่งขั้นตอนการฝากไฟล์ขึ้น MEGA นี้สามารถทำได้ทันทีผ่านทางเว็บบราวเซอร์ได้เลย
Mega ฟรี 50GB
ที่มา : https://www.gadgetreview.com/