เคยเจอหน้าจอสีฟ้าพร้อมรหัส 0xc00000e5 ปรากฏขึ้นระหว่างใช้งานคอมพิวเตอร์ Windows ของคุณหรือไม่? 0xc00000e5 error Windows 11 ข้อความแจ้งเตือนเออเร่อ นี้เปรียบเสมือนฝันร้ายสำหรับผู้ใช้ Windows หลายคน บทความนี้มาอธิบาย รหัสข้อผิดพลาด 0xc00000e5 และนำเสนอวิธีแก้ไขที่อาจช่วยกอบกู้สถานการณ์กันค่ะ
0xc00000e5 หมายถึงอะไร
0xc00000e5 หมายถึง “Access Violation” เกิดขึ้นเมื่อโปรแกรมพยายามเข้าถึงหน่วยความจำที่ไม่ถูกต้อง สาเหตุอาจมาจากหลายปัจจัย ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มหลัก ๆ ดังนี้
- การติดไวรัสหรือมัลแวร์: โปรแกรมที่ไม่พึงประสงค์อาจขัดขวางการทำงานของระบบปฏิบัติการหรือโปรแกรมอื่น ๆ ซึ่งนำไปสู่ข้อผิดพลาดนี้ได้
- ปัญหาของฮาร์ดแวร์: ส่วนประกอบฮาร์ดแวร์ที่มีปัญหา เช่น แรมเสีย ฮาร์ดดิสก์เสีย หรือการเชื่อมต่อที่ไม่แน่นหนา อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาด 0xc00000e5 ได้
- ความขัดแย้งของซอฟต์แวร์: ซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งในระบบอาจมีการขัดแย้งกัน ซึ่งทำให้ระบบไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ
- ไฟล์ระบบที่เสียหาย: ไฟล์ที่จำเป็นสำหรับการทำงานของระบบอาจเสียหายจากการปิดระบบที่ไม่ถูกต้องหรือจากสาเหตุอื่น ๆ
- ปัญหาการอัพเดตระบบ: การอัพเดต Windows ที่ไม่สมบูรณ์หรือไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดนี้
อาการ
สัญญาณเตือนของรหัส 0xc00000e5 มักปรากฏขึ้นพร้อมกับข้อความ “แอปพลิเคชันไม่สามารถเริ่มทำงานได้อย่างถูกต้อง (0xc00000e5) คลิก ‘ตกลง’ เพื่อปิดแอปพลิเคชัน” โปรแกรมที่ได้รับผลกระทบอาจหยุดทำงานกะทันหัน หรือระบบอาจเกิดอาการค้าง
วิธีแก้ไขรหัสข้อผิดพลาด 0xc00000e5
การแก้ไขปัญหารหัสข้อผิดพลาด 0xc00000e5 อาจทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่เกิดข้อผิดพลาดนี้ วิธีแก้ไขเบื้องต้นที่สามารถลองทำได้มีดังนี้
1. ปิดการใช้งานซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส
บางครั้งซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสอาจตีโพยตีไข่โปรแกรมที่ถูกต้อง ลองปิดการใช้งานชั่วคราวแล้วดูว่าปัญหาได้รับการแก้ไขหรือไม่ หากใช่ ให้เพิ่มโปรแกรมที่จำเป็นลงในรายการข้อยกเว้นของซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส
2. เรียกใช้คำสั่ง DISM และ SFC
ไฟล์ระบบที่เสียหายอาจเป็นสาเหตุของปัญหา ใช้เครื่องมือ System File Checker (SFC) ของ Windows เพื่อสแกนและซ่อมแซมไฟล์เหล่านั้น
วิธีทำตามขั้นตอนนี้
- คลิกขวาที่ปุ่ม Start
- เลือก “Command Prompt (Admin)”
- พิมพ์คำสั่ง `sfc /scannow` และกด Enter
- รอจน SFC สแกนและซ่อมแซมไฟล์ที่เสียหาย
- รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์
รูปภาพแสดง : ใช้เครื่องมือ System File Checker (SFC)
ป้อนคำสั่งต่อไปนี้:DISM.exe /Online /Restorehealth
รูปภาพแสดง : ป้อนคำสั่ง “DISM.exe”
3. อัปเดตไดรเวอร์อุปกรณ์
ไดรเวอร์ที่ล้าสมัยหรือไม่เข้ากันอาจสร้างปัญหา ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไดรเวอร์อุปกรณ์ของคุณได้รับการอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุด ทำได้ดังนี้
- ไปที่ Device Manager
- ค้นหาอุปกรณ์ที่คุณต้องการอัปเดตไดรเวอร์
- คลิกขวาที่อุปกรณ์และเลือก “Update driver”
- เลือก “Search automatically for updated driver software”
- Windows จะค้นหาและติดตั้งไดรเวอร์ล่าสุด
- รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์
4. ตรวจสอบ Windows Update
การอัปเดต Windows ที่ติดตั้งไม่สมบูรณ์หรือล้มเหลวอาจนำไปสู่รหัส 0xc00000e5 ตรวจสอบให้แน่ใจว่า Windows ของคุณได้รับการอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุด
- ไปที่ Settings > Update & Security > Windows Update
- คลิก “Check for updates”
- Windows จะตรวจสอบว่ามีการอัปเดตใดๆ ที่พร้อมใช้งานหรือไม่
- ติดตั้งการอัปเดตทั้งหมดที่มี
- รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์
รูปภาพแสดง : ตรวจสอบ Windows Update
5. การใช้ System Restore
หากข้อผิดพลาดนี้เกิดขึ้นหลังจากการติดตั้งโปรแกรมหรือการเปลี่ยนแปลงระบบ คุณสามารถใช้ System Restore เพื่อย้อนกลับไปยังจุดที่ระบบยังทำงานได้ตามปกติ
6. รีเซ็ต Windows
หากวิธีแก้ไขอื่นๆ ล้มเหลว ทางเลือกสุดท้ายคือการรีเซ็ต Windows วิธีนี้จะติดตั้ง Windows ใหม่โดยไม่ต้องลบไฟล์ส่วนบุคคลของคุณ อย่างไรก็ตาม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้สำรองข้อมูลสำคัญไว้เรียบร้อยก่อน ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
- ไปที่ Settings > Update & Security > Recovery
- ภายใต้ “Reset this PC” คลิก “Get started”
- เลือก “Keep my files” หรือ “Remove everything”
- ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ
A title
Image Box text
7. การติดตั้ง Windows ใหม่
หากวิธีข้างต้นไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ อาจจำเป็นต้องติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows ใหม่ เพื่อเริ่มต้นใหม่ด้วยระบบที่สะอาดและปราศจากข้อผิดพลาด
บทสรุป
รหัสข้อผิดพลาด 0xc00000e5 อาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ ทั้งการติดไวรัส ปัญหาฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ขัดแย้ง หรือไฟล์ระบบเสียหาย การแก้ไขปัญหาจำเป็นต้องใช้วิธีที่หลากหลายขึ้นอยู่กับสาเหตุที่แท้จริง การตรวจสอบและลบไวรัส ตรวจสอบฮาร์ดแวร์ ปิดโปรแกรมที่ไม่จำเป็น ซ่อมแซมไฟล์ระบบ
ตรวจสอบการอัพเดต และการใช้ System Restore เป็นวิธีที่สามารถลองทำได้เพื่อลดปัญหา หากทั้งหมดนี้ยังไม่สามารถแก้ไขได้ การติดตั้งระบบปฏิบัติการใหม่อาจเป็นทางเลือกสุดท้าย