Command Prompt คือ Application ของ Windows ที่ใช้สำหรับแปล Command line ที่เราป้อนเข้าไป คำสั่งส่วนใหญ่ทำงานโดยอัตโนมัติผ่านสคริปต์และไฟล์แบตช์ (batch files) ทำหน้าที่ดูแลระบบขั้นสูง หรือแก้ไขปัญหา Windows บางประเภท บทความนี้จะรวมคำสั่งพื้นฐาน Command Line ในระบบปฏิบัติการ Windows ที่ใช้บ่อย
หมายเหตุ : การใช้งาน Command Line นั้นให้การพิมพ์คำสั่งถ้าคุณพิมพ์ผิดแม้แต่ตัวเดียว จะทำให้ comand line นั้นๆไม่สามารถทำตามคำสั่งได้
01. ipconfig: ค้นหาที่อยู่ IP ของเครื่องได้อย่างรวดเร็ว
C:\windows\system32>ipconfig
เราสามารถดูที่อยู่ IP ของเครื่องคอมเราได้จาก “Control Panel” แต่ก็ต้องเข้าไปที่ Control Panel และคลิกหาเลขไอพี จาก network and sharing อีก ซึ่งก็ช้า ดังนั้น ในคำสั่ง Command line คำสั่ง “ipconfig” นี้ เป็นวิธีที่รวดเร็วในการดูที่อยู่ IP ของคอมพิวเตอร์พร้อมทั้งข้อมูลอื่นๆ เช่น default gateway ซึ่งจะมีประโยชน์หากคุณต้องการทราบที่อยู่ IP ของ เว็บอินเตอร์เฟสของเราเตอร์ของเรา
หากต้องการใช้คำสั่ง เพียงพิมพ์ “ipconfig” ที่ Command Prompt เราจะเห็นรายการการเชื่อมต่อเครือข่ายทั้งหมดที่ใช้อยู่ ดูที่ “Wireless LAN adapter” หากคอมเราเชื่อมต่อกับ Wi-Fi หรือ “Ethernet adapter” หากเชื่อมต่อกับเครือข่ายแบบ LAN
เราสามารถรายละเอียดเพิ่มเติม โดยใช้ Command line คำสั่ง “ipconfig /all” นี้ ดูตัวอย่างด้านล่าง
C:\windows\system32>ipconfig /all
02.ipconfig /flushdns: ล้างแคช DNS
C:\windows\system32>ipconfig /flushdns
หากเราเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ DNS ไปแล้วแต่ค่าใหม่ยังใช้ไม่ได้สักที อาจเป็นเพราะ Windows มีแคชของ DNS ตัวเก่าอยู่ ซึ่งที่มันเป็นแบบนี้เพราะช่วยประหยัดเวลาเมื่อเราเข้าถึงที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ DNS เดิมอีกครั้ง ดังนั้นเพื่อให้แน่ใจว่า Windows ได้รับที่อยู่จากเซิร์ฟเวอร์ DNS ใหม่แทนที่จะใช้ “รายการแคชเก่า” ให้ใช้คำสั่ง “ipconfig /flushdns” เพื่อเคลียแคช หลังจากเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ DNS แล้ว
03.ping และ tracert: แก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อเครือข่าย
คำสั่ง ping
C:\windows\system32>ping hostname หรือ ping IP address
หากเจอปัญหาในการเชื่อมต่อกับเว็บไซต์หรือปัญหาการเชื่อมต่อเครือข่ายอื่นๆใน Windows และระบบปฏิบัติการอื่นๆ เราสามารถใช้คำสั่ง Command line ตรวจเช็ค เพื่อระบุปัญหาได้ อันดับแรกในคำสั่ง ping พิมพ์ “ping howtogeek.com” ตามรูปภาพด้านบน (หรือชื่อเว็บอื่นๆต้องการทดสอบ) จากนั้น Windows จะส่งแพ็กเก็ตไปยังที่อยู่นั้น คุณสามารถใช้ชื่อหรือที่อยู่ IP จริงก็ได้
เซิร์ฟเวอร์ตามที่อยู่ IP นั้น (ในกรณีของเราคือเซิร์ฟเวอร์ How-To Geek) จะตอบกลับและแจ้งให้เราทราบว่าได้รับแล้ว เราจะสามารถดูได้ว่าแพ็กเก็ตใดที่ไม่ได้ส่งไปยังปลายทาง บางทีเราอาจเจอปัญหาเกิดการสูญเสียแพ็กเก็ต (packet loss) และใช้เวลานานเท่าไรถึงรับการตอบสนอง ใช้เวลาเท่าไรในการเข้าถึงจุดหมายปลายทางของที่อยู่เว็บนั้น
คำสั่ง tracert
C:\windows\system32>tracert hostname หรือ tracert IP address
เป็นติดตามเส้นทางจากเครื่องผู้ใช้ไปยัง server นั้นต้องวิ่งผ่านการกระโดดแต่ละครั้ง hop (ภาษา Network เรียกว่า Hop เหมือนกระโดดไปทีละ Router) ในเส้นทางไหนบ้าง และแสดงข้อมูลเกี่ยวกับ router ผ่านเส้นทางนั้นๆในแต่ละครั้ง ตัวอย่างเช่น หากเราเรียกใช้ tracert howtogeek.com ตามตัวอย่างภาพด้านล่าง เราจะเห็นข้อมูลแต่ละโหนดที่แพ็กเก็ตโต้ตอบด้วยระหว่างทางไปถึงเซิร์ฟเวอร์ของเรา หากคุณมีปัญหาในการเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ tracert สามารถแสดงให้คุณเห็นว่าปัญหาเกิดขึ้นที่ใดบ้าง
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้คำสั่งเหล่านี้ และเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมอื่นๆ ในการหาสาเหตุที่เครือข่ายหรือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่สร้างปัญหา สามารถดูข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้
04.การปิดระบบ : สร้างทางลัดการปิดระบบสำหรับ Windows
คำสั่ง “shutdown” ช่วยให้เราปิดหรือรีสตาร์ท Windows เป็นที่ยอมรับว่ามีประโยชน์มากกว่าใน Windows 8 (เพราะว่าใน win 8 นั้นปุ่ม “ปิด” เครื่องเข้าถึงยาก) แต่ถึงอย่างนั้น คำสั่งนี้ก็ยังสะดวก ไม่ว่าเราจะใช้ Windows เวอร์ชันใดก็ตาม เราก็สามารถใช้คำสั่งเพื่อสร้างทางลัด ไว้ใช้เองและวางไว้บน Start menu เดสก์ท็อป หรือแม้แต่ taskbar
ใน Windows 8 และ 10 เรายังสามารถใช้ “คำสั่งพิเศษ” เพื่อรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ในเมนูตัวเลือกการเริ่มต้นขั้นสูง หากต้องการใช้ Command line เพื่อสร้าง shortcut ให้เลือกพิมพ์คำสั่งดังต่อไปนี้:
- shutdown /s /t 0: ทำการปิดเครื่องตามปกติ
- shutdown /r /t 0: รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์
- shutdown /r /o: รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์เป็นตัวเลือกขั้นสูง
05.sfc /scannow: สแกนไฟล์ระบบเพื่อหาปัญหา
C:\windows\system32>sfc /scannow
Windows มีเครื่องมือตรวจสอบไฟล์ ระบบที่จะสแกนไฟล์ระบบ Windows ทั้งหมดและค้นหาปัญหา หากไฟล์ของระบบหายไปหรือเสียหาย ตัวตรวจสอบไฟล์ระบบจะทำการซ่อมแซม การดำเนินการนี้อาจแก้ไขปัญหากับระบบ Windows บางระบบ
หากต้องการใช้เครื่องมือนี้ ให้เปิดหน้าต่างพร้อมรับคำสั่งในฐานะผู้ดูแลระบบ แล้วเรียกใช้คำสั่ง sfc /scannow
ที่มา : https://www.howtogeek.com