การนั่งจ้องหน้าจอนานครึ่งชั่วโมงและเขียนได้เพียงบรรทัดเดียวอาจเป็นเรื่องน่าหงุดหงิดที่สุดสำหรับนักเขียน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาฉันได้ค้นพบกลยุทธ์ต่างๆ ที่ช่วยเอาชนะอาการ writer’s block เมื่อใช้ Microsoft Word ต่อไปนี้คือเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยให้คุณสามารถฝ่าฟันอุปสรรคในการเขียนได้
1. ใช้เทมเพลตที่กำหนดเอง
การเผชิญหน้ากับหน้าจอว่างเปล่าเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการขาดแรงบันดาลใจในการเขียน หนึ่งในวิธีที่ฉันจัดการกับปัญหานี้คือการใช้เทมเพลตที่แบ่งเนื้อหาออกเป็นส่วนต่างๆ เช่น บทนำ หัวข้อหลัก หัวข้อย่อย และบทสรุป ก่อนเริ่มเขียน ฉันจะกรอกโครงร่างด้วยหัวข้อและประเด็นที่ต้องการ นี่ทำให้ฉันมีแนวทางที่ชัดเจนและสามารถข้ามไปมาระหว่างส่วนต่างๆ ได้หากติดขัดที่จุดใดจุดหนึ่ง
เพื่อสร้างเทมเพลตใน Microsoft Word คุณเพียงเปิดเอกสารใหม่ เพิ่มส่วนที่ต้องการ แล้วบันทึกเป็น Word Template (.dotx)* เพื่อใช้ในอนาคต คุณจะไม่ต้องเผชิญหน้ากับหน้าจอว่างเปล่าอีกต่อไป
2. โหมดโฟกัสช่วยให้ไม่มีสิ่งรบกวน
เมื่อเกิดอาการคิดไม่ออก มักจะมีสิ่งรบกวนอื่นๆ ที่ทำให้สถานการณ์แย่ลง ฉันจึงใช้โหมดโฟกัสใน Microsoft Word เพื่อขจัดสิ่งรบกวนบนหน้าจอ เช่น แถบเครื่องมือและการแจ้งเตือนต่างๆ โหมดนี้ช่วยให้ฉันมีสมาธิในการเขียนโดยไม่มีสิ่งอื่นมารบกวน หากต้องการเปิดใช้งานเพียงไปที่แท็บ “มุมมอง” และเลือก “โฟกัส”
3. Microsoft Copilot: ผู้ช่วยนักเขียน
Microsoft Copilot เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ฉันเอาชนะอาการขาดแรงบันดาลใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยประหยัดเวลาในการค้นคว้าข้อมูลและเสนอแนะแนวคิดเมื่อฉันติดขัด นอกจากนี้ยังสามารถแก้ไขข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์หรือเสนอคำพ้องความหมายได้ ซึ่งช่วยให้การเขียนของฉันราบรื่นยิ่งขึ้น
4. ฟังก์ชันการบอกตามคำบอก
เมื่อฉันไม่สามารถพิมพ์ได้ ฉันใช้ฟังก์ชันการบอกตามคำบอกเพื่อถ่ายทอดความคิดออกมาเป็นคำพูด การมุ่งเน้นเพียงการพูดช่วยให้ฉันบันทึกความคิดได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงกลับไปปรับแต่งผ่านการพิมพ์ภายหลัง
5. Smart Lookup: ค้นคว้าได้ทันที
การเปลี่ยนไปมาระหว่าง Microsoft Word และเว็บเบราว์เซอร์บ่อยๆ อาจทำให้เสียสมาธิ ด้วยฟีเจอร์ Smart Lookup ฉันสามารถค้นหาข้อมูลและคำจำกัดความได้โดยไม่ต้องออกจากเอกสาร ทำให้การค้นคว้าข้อมูลสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
6. การจัดการเวลาโดยใช้คุณสมบัตินับคำ
ฉันมักจะไม่พยายามเขียนบทความให้เสร็จในครั้งเดียว แต่จะตั้งเป้าหมายเป็นส่วนย่อยๆ และคอยดูจำนวนคำที่มุมขวาล่างของหน้าต่าง การแบ่งจำนวนคำออกเป็นเป้าหมายที่จัดการได้ช่วยลดความกดดันและทำให้ฉันมีสมาธิมากขึ้น
7. ความรับผิดชอบจากผู้อื่น
การให้คนอื่นติดตามความก้าวหน้าในการเขียนของฉันก็เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ เช่น การแชร์เอกสารใน Microsoft Word กับเพื่อนหรือคนในครอบครัว เพื่อให้พวกเขาคอยดูความก้าวหน้า ซึ่งช่วยกระตุ้นให้ฉันทำงานต่อไป
8. ใช้ประวัติเวอร์ชันเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ
ฟีเจอร์ประวัติเวอร์ชันใน Microsoft Word ช่วยให้ฉันเห็นความก้าวหน้าของตนเองเมื่อเขียน นอกจากนี้ยังสามารถย้อนกลับไปใช้เวอร์ชันก่อนหน้าได้หากมีข้อผิดพลาดในการเขียน ช่วยให้ฉันรู้สึกมั่นใจมากขึ้นในงานเขียนของตน
บทสรุป
นี่เป็นเพียงบางฟีเจอร์ของ Microsoft Word ที่ช่วยให้ฉันรับมือกับอาการขาดความคิดสร้างสรรค์ได้ หากคุณยังไม่เคยลองใช้เครื่องมือเหล่านี้และรู้สึกว่าต้องนั่งจ้องหน้าจอว่างเป็นเวลานาน ฉันขอแนะนำให้ลองใช้ดู เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้คุณเขียนได้ราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ที่มา : https://www.howtogeek.com