หากคุณต้องการรับการแจ้งเตือนแบบกำหนดเองในเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า Windows 11 มีหลายวิธีให้คุณเลือกใช้ ไม่ว่าคุณต้องการแจ้งเตือนเรื่องงานที่ต้องทำ การนัดหมาย หรือกิจกรรมสำคัญ ต่อไปนี้คือวิธีต่างๆ ในการตั้งค่าการแจ้งเตือน
1. การใช้ Task Scheduler เพื่อตั้งค่าการแจ้งเตือน
Task Scheduler เป็นเครื่องมือภายในของ Windows ที่ช่วยให้คุณกำหนดเวลาการทำงานได้อย่างง่ายดาย
วิธีตั้งค่าการแจ้งเตือน:
-
กด
Windows + S
และพิมพ์Task Scheduler
จากนั้นเปิดโปรแกรม -
เลือก Action > Create Basic Task
- ตั้ง “ชื่อ” ให้กับงานและเพิ่มคำอธิบาย จากนั้นคลิก Next
- กำหนดความถี่ของงาน เช่น รายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือน แล้วคลิก Next
- ตั้งค่าวันที่และเวลาที่ต้องการให้แจ้งเตือน แล้วคลิก Next
- เลือก Start a Program แล้วคลิก Next
- ในช่อง Program/Script ให้พิมพ์
msg
และในช่อง Add Arguments ให้พิมพ์ข้อความแจ้งเตือนของคุณ เช่น “ถึงเวลาพักแล้ว!”
* "Your Custom Message"
- ตรวจสอบรายละเอียดและคลิก Finish
แนะนำการใช้ Task Scheduler เพิ่มเติม
การใช้ Task Scheduler เพื่อแสดงข้อความแจ้งเตือนตามกำหนดเวลาบน Windows 11
- ตั้งเวลาแจ้งเตือน : Task Scheduler ช่วยให้คุณกำหนดเวลาให้ข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้นตามวันและเวลาที่ต้องการได้
- หยุดแจ้งเตือน : หากต้องการยกเลิกการแจ้งเตือนในอนาคต ให้เปิด Task Scheduler, คลิกขวาที่งานที่สร้างไว้, แล้วเลือก “Delete”
- ยืนยันการลบ : กดยืนยัน “Yes” เมื่อระบบถามเพื่อลบงานนั้นๆ
2. การใช้ Microsoft To Do
Microsoft To Do เป็นแอปที่ช่วยให้คุณตั้งค่าการแจ้งเตือนได้ง่ายๆ ผ่านการสร้างงานที่มีการแจ้งเตือน
วิธีใช้งาน:
-
เปิด Microsoft Store และค้นหา
Microsoft To Do
-
ติดตั้งและเปิดแอป จากนั้นเลือก Add a Task
- พิมพ์ข้อความงานที่ต้องการให้แจ้งเตือน ตามหมายเลขที่ 1
- จากนั้นคลิกไอคอนนาฬิกา “Remind Me” และเลือกเวลาที่ต้องการรับการแจ้งเตือน
- แอปจะแจ้งเตือนตามเวลาที่กำหนดไว้ ลบข้อความที่ไม่ต้องการโดยคลิกขวาที่ข้อความ แล้วเลือก “Delete Task” และ “Delete” เพื่อยืนยัน
3. การใช้ System Scheduler โปรแกรมการแจ้งเตือน
System Scheduler เป็นแอปที่สามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนได้คล้ายกับ Task Scheduler แต่ใช้งานง่ายกว่า
วิธีตั้งค่าการแจ้งเตือน
-
ดาวน์โหลดและติดตั้ง System Scheduler จากเว็บไซต์ของผู้พัฒนา
-
เปิดแอปแล้วเลือก Action > New Event หรือกด
Ctrl + N
- เปิดแท็บ “Event”
- เลือก “Popup Reminder” ในเมนู “Event Type”
- ใส่หัวเรื่องในช่อง “Title” พิมพ์ข้อความแจ้งเตือนทั้งหมดในช่อง “Text”
- เปิดแท็บ “Schedule” เพื่อเริ่มตั้งค่าเวลาการแจ้งเตือน
- จากเมนู “Schedule Type” ให้คลิกเมนูแบบเลื่อนลง “Every Hour/Selected Minutes” เพื่อเลือกความถี่ ว่าต้องการให้แจ้งเตือนบ่อยแค่ไหน (เช่น ทุกชั่วโมง, ทุกวัน)
- กำหนดรายละเอียด หากเลือกความถี่แบบกำหนดเอง ให้ระบุรายละเอียดเพิ่มเติม เช่น เวลาเริ่มต้น – เวลาสิ้นสุด, หรือช่วงเวลาที่ต้องการให้แจ้งเตือน
- หลังจากตั้งค่าการแจ้งเตือนแล้ว ให้กดปุ่ม “Save and Exit” เพื่อเริ่มใช้งาน แอปจะส่งการแจ้งเตือนตามความถี่และเวลาที่กำหนด
- หากต้องการ “หยุดรับการแจ้งเตือนชั่วคราว” ให้เปิดตัวกำหนดเวลาของระบบ คลิกขวาที่เหตุการณ์ และเลือก “Disable Event”
- หากต้องการ “ลบการแจ้งเตือนอย่างถาวร” ให้คลิกขวาที่เหตุการณ์นั้น เลือก “Delete” และยืนยันการลบ
ประโยชน์ของการใช้ System Scheduler Program
- การทำงานอัตโนมัติ: ช่วยให้สามารถตั้งเวลาให้คอมพิวเตอร์ทำงานต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติ เช่น การเปิดโปรแกรม, การปิดโปรแกรม, การสำรองข้อมูล, การดาวน์โหลดไฟล์, หรือการส่งอีเมล
- การประหยัดเวลา: ช่วยลดเวลาในการทำงานซ้ำๆ หรือทำงานที่ต้องทำเป็นประจำ
การเพิ่มประสิทธิภาพ: ช่วยให้สามารถทำงานต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะงานที่ต้องทำในเวลาที่กำหนด - การตั้งเวลาที่ยืดหยุ่น: สามารถตั้งเวลาให้ทำงานต่างๆ ได้ตามความต้องการ เช่น ทำงานทุกวัน, ทุกสัปดาห์, ทุกเดือน, หรือตามช่วงเวลาที่กำหนดเอง
4.การใช้ Sticky Notes ร่วมกับ Task Scheduler
การใช้ Sticky Notes ร่วมกับ Task Scheduler เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการสร้างระบบเตือนความจำแบบกำหนดเองบน Windows 11
หลักการทำงาน
Sticky Notes
- เป็นแอปพลิเคชันที่มีมาพร้อมกับ Windows ซึ่งช่วยให้คุณสร้างบันทึกย่อดิจิทัลบนเดสก์ท็อปของคุณ
- คุณสามารถใช้ Sticky Notes เพื่อจดบันทึกย่อสั้นๆ รายการสิ่งที่ต้องทำ หรือข้อมูลสำคัญอื่นๆ ที่คุณต้องการเข้าถึงอย่างรวดเร็ว
Task Scheduler
- เป็นเครื่องมือของ Windows ที่ช่วยให้คุณตั้งเวลาให้โปรแกรมหรือสคริปต์ทำงานโดยอัตโนมัติ
- โดยการตั้งค่า Task Scheduler เพื่อเปิด Sticky Notes ตามเวลาที่กำหนด คุณสามารถใช้บันทึกย่อของคุณเป็นตัวเตือนความจำได้
วิธีใช้งาน
- ให้เปิด Windows Search (กด Windows+S) พิมพ์ Sticky Notes แล้วเปิดแอป
- เปิด Sticky Notes และสร้างบันทึกใหม่
- เปิด Windows Search โดยกดปุ่ม Windows + S พิมพ์ “Task Scheduler” แล้วกด Enter
- จากแถบเมนู ให้เลือก Action”> Create Task ในแท็บ “General” ให้ใส่ชื่อสำหรับงาน (เช่น “เปิด Sticky Notes”)
- ไปที่แท็บ “Triggers” แล้วคลิก “New” ในหน้าต่าง “New Trigger” ให้กำหนดเวลาและความถี่ที่คุณต้องการให้ Sticky Notes ปรากฏ เลือก “Daily” (ทุกวัน), “Weekly” (ทุกสัปดาห์), “Monthly” (ทุกเดือน), หรือ “One time” (ครั้งเดียว) กำหนดเวลาเริ่มต้น จากนั้นคลิก “OK”
- ไปที่แท็บ “Actions” แล้วคลิก “New” เลือกเมนูแบบเลื่อนลง “Action”
- และเลือก “Start a Program” คลิกช่อง “Program/Script” และพิมพ์ข้อความต่อไปนี้
explorer.exe
- ในช่อง Add Arguments ให้พิมพ์:
shell:appsFolderMicrosoft.MicrosoftStickyNotes_8wekyb3d8bbwe!App
- คลิก OK และบันทึกการตั้งค่า
เมื่อถึงเวลาที่กำหนด Sticky Notes จะเปิดขึ้นพร้อมกับบันทึกที่คุณสร้างไว้
5. การใช้แอปนาฬิกา (Clock) เพื่อตั้งปลุกแจ้งเตือน
แอป Clock บน Windows 11 มีฟีเจอร์นาฬิกาปลุกที่สามารถใช้เป็นเครื่องมือแจ้งเตือนง่ายๆ ได้ตามขั้นตอนนี้:
- เปิด Windows Search (Windows+S) และพิมพ์ Clock เพื่อเปิดแอป
- เลือกเมนู Alarm จากแถบด้านซ้าย
- คลิก เพิ่มการเตือน (ไอคอน +) เพื่อสร้างการแจ้งเตือนใหม่
- ตั้งค่าเวลาที่ต้องการรับการแจ้งเตือน และพิมพ์ข้อความแจ้งเตือนในช่อง “Alarm Name”
- เลือกเสียงเตือนและกำหนดตัวเลือกอื่น ๆ เช่น การทำซ้ำของการปลุก เป็นต้น
- คลิก “Save” เพื่อเปิดใช้งานการแจ้งเตือน
บทสรุป
Windows 11 มีหลายวิธีในการตั้งค่าการแจ้งเตือนแบบกำหนดเอง ตั้งแต่การใช้ Task Scheduler, Microsoft To Do, System Scheduler, Sticky Notes ไปจนถึง Clock ซึ่งช่วยให้คุณสามารถเลือกวิธีที่สะดวกและเหมาะสมกับความต้องการของคุณได้
ไม่ว่าคุณจะต้องการแจ้งเตือนงานสำคัญ นัดหมาย หรือเพียงต้องการเตือนตัวเองให้พักจากการทำงาน วิธีเหล่านี้จะช่วยให้คุณจัดการเวลาได้ดีขึ้น!
ที่มา : https://www.howtogeek.com