การสร้างรายการตัวเลขแบบสุ่มใน Excel มีประโยชน์มาก ไม่ว่าจะใช้สำหรับสุ่มรายชื่อ การทดลองทางสถิติ หรือจำลองสถานการณ์ต่างๆ อย่างไรก็ตาม ฟังก์ชันสุ่มของ Excel เป็นฟังก์ชันที่ “ไม่แน่นอน” หมายความว่า ตัวเลขจะเปลี่ยนไปทุกครั้งที่มีการอัปเดตในเวิร์กชีต หรือเมื่อเปิดไฟล์ใหม่อีกครั้ง
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักวิธีการสร้าง แก้ไข และจัดการกับค่าซ้ำในรายการตัวเลขสุ่มอย่างเป็นระบบ
ฟังก์ชันสุ่มใน Excel
Excel มีฟังก์ชันหลักสำหรับการสร้างตัวเลขสุ่ม 3 แบบ ได้แก่:
| ฟังก์ชัน | หน้าที่ | ตัวอย่างการใช้งาน | หมายเหตุ |
|---|---|---|---|
=RAND() |
สร้างเลขทศนิยมระหว่าง 0 ถึง 1 | =RAND() | ไม่มีอาร์กิวเมนต์ |
=RANDBETWEEN(a,b) |
สร้างเลขจำนวนเต็มระหว่าง a ถึง b | =RANDBETWEEN(1,100) | ใช้เลขเต็มเท่านั้น |
=RANDARRAY(rows, columns, min, max, whole) |
สร้างอาร์เรย์ของตัวเลขสุ่ม | =RANDARRAY(5,1,1,100,TRUE) | กำหนดช่วง จำนวน และชนิดตัวเลขได้ละเอียด |
ตัวอย่าง: หากต้องการสุ่มตัวเลขจำนวนเต็ม 10 ตัว ระหว่าง 1 ถึง 100 ให้ใช้สูตร =RANDARRAY(10,1,1,100,TRUE)
ข้อควรระวัง: หากใช้ RANDARRAY แล้วลากสูตรเติมลงหลายเซลล์ อาจเกิดข้อผิดพลาด #SPILL! ได้หากพื้นที่ไม่พอ
คำอธิบายเพิ่มเติมสำหรับ RANDARRAY
-
v= จำนวนแถว -
w= จำนวนคอลัมน์ -
x= ค่าต่ำสุดของช่วง -
y= ค่าสูงสุดของช่วง -
z= พิมพ์TRUEหากต้องการตัวเลขจำนวนเต็ม, หรือFALSEสำหรับตัวเลขทศนิยม
หลังจากกรอกสูตรและกด Enter คุณสามารถใช้ “ตัวจัดการการเติม” (Fill Handle) ของ Excel เพื่อคัดลอกสูตรไปยังเซลล์อื่นๆ ได้ หากใช้ RANDARRAY แล้วลากเติมหลายเซลล์ อย่าลืมระวังข้อผิดพลาด #SPILL! ที่อาจเกิดจากการที่พื้นที่ไม่พอรองรับผลลัพธ์ของอาร์เรย์
วิธีแก้ไขตัวเลขสุ่มไม่ให้เปลี่ยนค่า
อย่างที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ฟังก์ชันสุ่มใน Excel เช่น RAND, RANDBETWEEN และ RANDARRAY เป็นฟังก์ชัน ไม่แน่นอน หมายความว่า ตัวเลขจะเปลี่ยนทุกครั้งที่มีการแก้ไขใด ๆ ในชีต หรือเมื่อคุณเปิดไฟล์ใหม่อีกครั้ง
หากคุณต้องการ “ล็อก” หรือ “ตรึง” ตัวเลขสุ่มเหล่านี้ไว้ไม่ให้เปลี่ยนตามการคำนวณใหม่ ทำได้ง่ายๆ ด้วยขั้นตอนต่อไปนี้:
- เลือกเซลล์ ที่มีตัวเลขสุ่มที่คุณต้องการตรึงค่า
- คลิกขวา แล้วเลือก “Copy” หรือกด Ctrl + C
วางค่าเดิมลงในตำแหน่งเดิมหรือบริเวณอื่น โดยใช้การวางแบบพิเศษ:
- เลือกเซลล์แรก (บนซ้ายสุด) ของช่วงที่คุณคัดลอกมา
- ไปที่แท็บ “หน้าแรก” (Home) บน Ribbon
- คลิกที่ลูกศรลงใต้ปุ่ม “วาง” (Paste)
- เลือก “ค่า” (Values) ซึ่งมักจะมีไอคอนเป็นรูปตัวเลข 123 หรือ กดปุ่ม Ctrl + Shift + V บนคีย์บอร์ด
วิธีลบค่าซ้ำจากรายการตัวเลขสุ่มใน Excel
หากคุณใช้ฟังก์ชันสุ่มใน Excel เช่น RANDBETWEEN, RAND, หรือ RANDARRAY เพื่อสร้างตัวเลขแบบสุ่ม มีโอกาสที่ตัวเลขบางค่าจะซ้ำกัน โดยเฉพาะเมื่อใช้ RANDBETWEEN ซึ่งสร้างค่าจำนวนเต็มในช่วงที่กำหนด ยิ่งช่วงแคบ โอกาสซ้ำยิ่งมากขึ้น
ในขณะที่ RAND และ RANDARRAY มีแนวโน้มจะไม่ซ้ำ เพราะสามารถสร้างเลขทศนิยมถึง 15 ตำแหน่ง แต่ก็ไม่รับประกัน 100%
วิธีลบค่าซ้ำอย่างง่าย
1.เลือกเซลล์ที่มีตัวเลขสุ่มคงที่
หากคุณยังไม่ได้ “ตรึง” ตัวเลขจากสูตร ให้ทำการคัดลอกและวางแบบค่า (Value) ตามขั้นตอนที่กล่าวไว้ในหัวข้อก่อน เพื่อให้ตัวเลขไม่เปลี่ยน
2.ไปที่แท็บ “Data” แล้วคลิกที่ “Remove Duplicates”
3.ตั้งค่ากล่องโต้ตอบ
หากข้อมูลไม่มีหัวตาราง ให้ยกเลิกการเลือกตัวเลือก “มีส่วนหัว” (My data has headers)
เลือกคอลัมน์ที่ต้องการลบค่าซ้ำ แล้วคลิก “OK”
4.Excel จะประมวลผลแล้วแสดงข้อความว่าได้ลบค่าซ้ำกี่รายการ พร้อมแจ้งจำนวนข้อมูลที่เหลืออยู่
คลิก “OK” เพื่อปิดกล่องข้อความ
5.เนื่องจากข้อมูลมีตัวเลขสี่ตัว ฉันจึงต้องใช้ฟังก์ชันตัวเลขสุ่มแบบเดียวกับที่ใช้ในรายการเดิมเพื่อสร้างตัวเลขสุ่มเพิ่มเติม และแก้ไขตามขั้นตอนก่อนหน้า เมื่อคุณทำแบบเดียวกันแล้ว ให้เลือกรายการตัวเลขทั้งหมดอีกครั้ง คลิก “ลบตัวเลขซ้ำ” ในแท็บข้อมูล และทำซ้ำขั้นตอนนี้จนกว่าคุณจะไม่มีตัวเลขสุ่มอีกต่อไป
นอกจากการคัดลอกและวางค่าในเซลล์ที่มีฟังก์ชันผันผวนเพื่อแก้ไขค่าเหล่านี้แล้ว คุณยังสามารถหยุดการคำนวณฟังก์ชันผันผวนทั้งหมดโดยอัตโนมัติได้โดยคลิก “ตัวเลือกการคำนวณ” ในแท็บสูตร และเลือก “ด้วยตนเอง” จากนั้น เมื่อคุณป้อนฟังก์ชันตัวเลขสุ่มแล้ว ให้คลิก “คำนวณทันที” เพื่ออัปเดตค่าสุ่ม
บทสรุป
การลบค่าซ้ำใน Excel สามารถทำได้ง่ายด้วยคำสั่ง “Remove Duplicates” ในแท็บข้อมูลหลังจากแปลงสูตรสุ่มให้เป็นค่าคงที่แล้ว ฟังก์ชันสุ่มอย่าง RANDBETWEEN มีโอกาสให้ค่าซ้ำมากกว่าฟังก์ชัน RAND และ RANDARRAY ที่สร้างเลขทศนิยม
หากยังได้ค่าซ้ำหลังลบ ให้สร้างตัวเลขสุ่มใหม่แล้วทำซ้ำขั้นตอนจนได้ชุดข้อมูลที่ไม่ซ้ำกันตามต้องการ
ที่มา : https://www.howtogeek.com
