ซื้อ SSD มือสอง ดีไหม? เป็นคำถามหลายคนสำหรับคนงบน้อย การเลือกซื้อ Solid State Drive (SSD) มือสองอาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจาก SSD มือสองมีราคาถูกกว่า SSD ใหม่มาก แต่การตัดสินใจนี้ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ
บทความนี้จะแนะนำทั้งข้อดีและข้อเสียของการซื้อ SSD มือสอง รวมถึงแนวทางการตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าเราจะได้รับสินค้าที่มีคุณภาพและคุ้มค่าที่สุด
ข้อดีของการซื้อ SSD มือสอง
การตัดสินใจซื้อ SSD มือสองเราต้องชั่งน้ำหนักข้อดี ที่อาจช่วยให้ “ประหยัดเงิน” กับ ความเสี่ยง ที่อาจต้อง “แลกเปลี่ยน” บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกข้อดีของการซื้อ SSD มือสอง เพื่อประกอบการตัดสินใจ
-
ราคาประหยัด : ข้อดีหลักที่ทำให้หลายคนเลือกซื้อ SSD มือสองคือราคาที่ถูกกว่ามาก เราสามารถหาซื้อ SSD ที่มีความจุใหญ่กว่าในราคาที่เท่ากับหรือถูกกว่า SSD ใหม่ที่มีความจุน้อยกว่า ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่มีงบจำกัด
-
ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น : แม้จะเป็น SSD มือสอง แต่ประสิทธิภาพการทำงานยังคงดีกว่าฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุน (HDD) มาก การเปลี่ยนจาก HDD ไปเป็น SSD แม้จะเป็นมือสอง ก็สามารถเพิ่มความเร็วในการบูตเครื่องและการเปิดโปรแกรมได้อย่างเห็นได้ชัด
-
ความหลากหลายของสินค้า : ตลาดของ SSD มือสองมีความหลากหลายมาก คุณสามารถหา SSD ที่มีขนาดและความจุตามที่ต้องการได้ง่าย และบางครั้งอาจเจอสินค้าที่คุณไม่สามารถหาได้ในตลาด SSD ใหม่
ข้อเสียของการซื้อ SSD มือสอง
การซื้อ SSD (Solid State Drive) มือสองนั้นอาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ก็มีข้อเสียหลายประการที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อ ซึ่งโดยรวมแล้ว ข้อเสียของการซื้อ SSD มือสองมีดังต่อไปนี้
อายุการใช้งานที่ลดลง
SSD มีอายุการใช้งานที่จำกัดตามจำนวนครั้งที่สามารถเขียนและลบข้อมูล (write cycles) การซื้อ SSD มือสองที่เคยถูกใช้งานมาแล้วอาจทำให้อายุการใช้งานที่เหลือน้อยลง ซึ่งอาจทำให้ต้องเปลี่ยนใหม่ในระยะเวลาอันสั้นไม่มีการรับประกัน
ไม่มีการรับประกัน
SSD มือสองมักไม่มีการรับประกัน หรือหากมีก็เป็นระยะเวลาที่สั้นกว่าของใหม่ การไม่มีการรับประกันทำให้คุณต้องรับความเสี่ยงเองหาก SSD เกิดปัญหาขึ้นในภายหลัง
ความน่าเชื่อถือและสภาพสินค้า
คุณไม่สามารถแน่ใจได้ว่า SSD มือสองที่คุณซื้อจะมีสภาพดีและทำงานได้ตามปกติหรือไม่ ผู้ขายบางรายอาจไม่เปิดเผยข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับประวัติการใช้งานของ SSD ซึ่งอาจทำให้คุณได้รับสินค้าที่มีปัญหา
ปัญหาความเข้ากันได้
SSD มือสองบางรุ่นอาจไม่เข้ากับระบบปฏิบัติการหรือฮาร์ดแวร์ของคุณ ซึ่งอาจทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนหรือซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติมเพื่อให้ใช้งานได้
วิธีการตรวจสอบ SSD มือสองก่อนซื้อ
หากคุณตัดสินใจที่จะซื้อ SSD มือสอง มีขั้นตอนบางอย่างที่ควรทำเพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้รับสินค้าที่มีคุณภาพและคุ้มค่า:
-
ตรวจสอบประวัติการใช้งาน: ขอข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งาน SSD จากผู้ขาย เช่น จำนวนชั่วโมงการใช้งาน (Power-On Hours) และจำนวนการเขียนข้อมูลทั้งหมด (Total Bytes Written) โดยใช้ซอฟต์แวร์ตรวจสอบ SSD เช่น CrystalDiskInfo ซึ่งสามารถช่วยให้คุณเห็นสภาพและอายุการใช้งานที่เหลืออยู่
-
ตรวจสอบสภาพภายนอก: ตรวจสอบว่าสภาพภายนอกของ SSD ไม่มีรอยขีดข่วนหรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานหนักหรือการถูกกระแทก
-
ทดสอบการทำงาน: หากเป็นไปได้ ให้ทดสอบการทำงานของ SSD โดยติดตั้งลงในคอมพิวเตอร์และตรวจสอบว่ามันทำงานได้อย่างถูกต้อง ไม่มีปัญหาเรื่องการอ่านหรือเขียนข้อมูล
-
ซื้อจากผู้ขายที่น่าเชื่อถือ: เลือกซื้อ SSD มือสองจากผู้ขายที่มีรีวิวดีและเป็นที่รู้จักในวงการ หรือจากร้านค้าที่มีการรับประกันสินค้าในระยะเวลาที่เหมาะสม
บทสรุป
การเลือกซื้อ SSD มือสอง อาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีงบจำกัด ด้วยข้อดีของราคาที่ถูกกว่าและประสิทธิภาพที่ยังคงดีอยู่ อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังในการเลือกซื้อเพราะมีความเสี่ยงในเรื่องอายุการใช้งานที่เหลือน้อย การไม่มีประกัน และสภาพสินค้า
การตรวจสอบประวัติการใช้งาน สภาพภายนอก และการทดสอบการทำงานสามารถช่วยลดความเสี่ยงนี้ได้ หากคุณสามารถรับความเสี่ยงได้และตรวจสอบสินค้าได้ดี การเลือกใช้ SSD มือสองก็สามารถเป็นทางเลือกที่ประหยัดและคุ้มค่าได้
ที่มา : https://windowsreport.com/