5 เทคนิคเพิ่มความเร็วในการถ่ายโอนไฟล์บน Windows 11

แม้ว่า Windows 11 จะออกแบบมาให้รองรับการถ่ายโอนไฟล์ได้อย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเป็นไฟล์ขนาดใหญ่หรือหลายไฟล์พร้อมกัน อาจทำให้กระบวนการล่าช้าได้ ในบทความนี้เราจะบอก 5 เทคนิควิธีเร่งความเร็ว

1. ใช้พอร์ต USB ที่เหมาะสม

USB 3.0 หรือสูงกว่าเร็วกว่า USB 2.0

หากคุณใช้แฟลชไดรฟ์หรือฮาร์ดไดรฟ์แบบพกพาที่รองรับ USB 3.x ควรเสียบเข้ากับพอร์ต USB 3.x ของคอมพิวเตอร์เพื่อเพิ่มความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูล โดยปกติพอร์ต USB 3.0 จะมีสีฟ้าหรือมีสัญลักษณ์บ่งบอก หากไม่แน่ใจสามารถตรวจสอบได้ผ่าน Device Manager ภายใต้หมวด Universal Serial Bus Controllers

A title

Image Box text

2. ปิดแอปพลิเคชันที่ไม่จำเป็น

ลดการใช้ทรัพยากรระบบ

แอปที่ทำงานอยู่เบื้องหลังสามารถใช้ทรัพยากร CPU, RAM และดิสก์ของคุณ ส่งผลให้ความเร็วในการถ่ายโอนไฟล์ลดลง ดังนั้น ควรปิดแอปที่ไม่จำเป็น โดยสามารถคลิกปุ่ม X เพื่อปิด หรือใช้ Task Manager เพื่อบังคับปิดแอปที่ใช้ทรัพยากรมาก

A title

Image Box text

3. ใช้คำสั่ง Robocopy แทน File Explorer

โอนถ่ายไฟล์ผ่าน Command Prompt ได้เร็วขึ้น

แทนที่จะใช้ File Explorer คุณสามารถใช้คำสั่ง Robocopy ผ่าน Command Prompt หรือ PowerShell เพื่อถ่ายโอนไฟล์ได้เร็วขึ้น คำสั่งนี้ช่วยลดการใช้ GUI และเพิ่มความเร็วในการคัดลอกไฟล์ โดยสามารถใช้พารามิเตอร์ /MT เพื่อเปิดโหมดมัลติเธรด ทำให้สามารถโอนย้ายไฟล์หลายไฟล์พร้อมกันได้อย่างรวดเร็ว

A title

Image Box text

4. บีบอัดไฟล์ก่อนถ่ายโอน

ไฟล์เล็กลง โอนไวขึ้น

การรวมไฟล์หลายไฟล์ให้อยู่ในรูปแบบ ZIP, 7z หรือ TAR ก่อนถ่ายโอนจะช่วยให้การส่งไฟล์ทำได้เร็วขึ้น เพราะไฟล์ที่บีบอัดจะมีขนาดเล็กลง ทำให้กระบวนการคัดลอกเสร็จเร็วขึ้น Windows 11 รองรับการบีบอัดไฟล์โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติม เพียงแค่เลือกไฟล์ คลิกขวา แล้วเลือก “Compress to”

A title

Image Box text

5. ใช้ SSD แทน HDD

SSD เร็วกว่า HDD หลายเท่า

การเปลี่ยนจาก HDD ไปเป็น SSD เป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการโอนถ่ายไฟล์ได้อย่างชัดเจน หากคุณใช้คอมพิวเตอร์รุ่นเก่า ลองเปลี่ยนไปใช้ SSD แบบ SATA หรือถ้าเมนบอร์ดรองรับ ควรใช้ NVMe M.2 SSD ซึ่งมีความเร็วสูงกว่า หากเมนบอร์ดของคุณไม่รองรับ อาจต้องใช้ PCIe Adapter เพื่อเพิ่มความเข้ากันได้

A title

Image Box text

บทสรุป

หากต้องการถ่ายโอนไฟล์ได้เร็วขึ้นบน Windows 11 ควรใช้พอร์ตที่เหมาะสม ปิดแอปที่ไม่จำเป็น ใช้คำสั่ง Robocopy บีบอัดไฟล์ก่อนถ่ายโอน และเปลี่ยนไปใช้ SSD แทน HDD วิธีเหล่านี้ช่วยให้คุณลดเวลารอและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน 

ที่มา : https://www.howtogeek.com