รู้สึกว่า Google Chrome ช้าลงหรือไม่? ถ้าใช่ คุณไม่ได้อยู่คนเดียว หลายคนประสบปัญหาเบราว์เซอร์โหลดช้า ตอบสนองช้าหรือค้างเป็นระยะ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานหรือความบันเทิงในชีวิตประจำวันของคุณ โชคดีที่มีวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้ Chrome กลับมาทำงานได้ลื่นไหลอีกครั้ง มาดูกันว่า 7 วิธีเหล่านี้จะช่วยคุณได้อย่างไร
1. ตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก่อน
ก่อนจะโทษว่าเป็นความผิดของ Chrome ลองตรวจสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตของคุณก่อน โดยใช้เว็บไซต์ทดสอบความเร็วอย่าง Speedtest หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ เปรียบเทียบกับความเร็วที่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณระบุไว้
ถ้าเน็ตช้า ไม่เสถียร หรือมีปัญหาเฉพาะบางเว็บไซต์ อาจต้องเช็กกับ Downdetector ว่าเป็นปัญหาเฉพาะคุณหรือระบบมีปัญหาทั่วไป
2. อัปเดต Google Chrome อยู่เสมอ
การอัปเดต Chrome เป็นเวอร์ชันล่าสุดเป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้เบราว์เซอร์ทำงานได้เร็วขึ้น ปลอดภัยขึ้น และมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ให้ใช้งานอยู่เสมอ แม้อัปเดตบางครั้งอาจไม่ส่งผลกับความเร็วโดยตรง แต่ก็ช่วยป้องกันภัยคุกคามออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยทั่วไป Chrome จะอัปเดตอัตโนมัติเมื่อคุณปิดและเปิดโปรแกรมใหม่ แต่หากเปิดทิ้งไว้นานโดยไม่รีสตาร์ท อาจมีการอัปเดตที่ยังไม่ถูกติดตั้ง ซึ่งจะมีสัญลักษณ์แจ้งเตือนที่มุมขวาบน
หากต้องการอัปเดตทันที
- คลิกเมนูสามจุดที่มุมขวาบน
- เลือก “อัปเดต Google Chrome” (ถ้ามี)
- คลิก “เปิดใช้งานใหม่” เพื่อรีสตาร์ทและติดตั้งอัปเดต
หากต้องการตรวจสอบเวอร์ชันหรืออัปเดตด้วยตัวเอง
- ไปที่ เมนูสามจุด > ความช่วยเหลือ > เกี่ยวกับ Google Chrome
- Chrome จะตรวจสอบและติดตั้งอัปเดตอัตโนมัติ หากมีเวอร์ชันใหม่ก็จะแจ้งให้รีสตาร์ท
อย่าลืมอัปเดต Chrome เป็นประจำ เพื่อให้ใช้งานได้ราบรื่นและปลอดภัยอยู่เสมอ
3. สแกนหาไวรัสหรือมัลแวร์
บางครั้ง Chrome ช้าเพราะมีมัลแวร์แอบแฝงในระบบ ซึ่งอาจเพิ่มโฆษณาแปลกๆ หรือติดตามพฤติกรรมออนไลน์ของคุณ ใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสหรือแอนตี้มัลแวร์ที่คุณไว้ใจในการสแกนระบบอย่างสม่ำเสมอ หากใช้งาน Chrome บนมือถือ ก็สามารถเรียกใช้การสแกนไวรัสได้เช่นกัน
4.อัพเกรดความปลอดภัยของ Chrome
ถึงแม้เครื่องมือ Chrome Cleanup Tool จะถูกยกเลิกไปแล้วในปี 2023 แต่ Chrome ยังมีฟีเจอร์ Safe Browsing ที่ช่วยป้องกันเว็บไซต์และส่วนขยายที่เป็นอันตราย
วิธีเปิดใช้งาน
- ไปที่ Settings > Privacy and security > Security
- เลือก Enhanced Protection ตามวงกลมที่แดง
ซึ่งจะช่วยเพิ่มการตรวจจับภัยคุกคามและเพิ่มความเร็วการโหลดหน้าเว็บ
5. ลบหรือจัดการส่วนขยาย (Extensions)
แม้ส่วนขยาย (Extensions) จะช่วยเพิ่มความสามารถให้ Chrome แต่ก็อาจทำให้เบราว์เซอร์ช้าลงโดยไม่รู้ตัว เพราะบางตัวกินทรัพยากรทั้ง CPU และ RAM มากกว่าที่คิด ยิ่งติดตั้งไว้มาก Chrome ก็ยิ่งทำงานหนัก
หากคุณอยากให้ Chrome เร็วขึ้น ทางที่ดีที่สุดคือ ลดจำนวนส่วนขยายให้เหลือเท่าที่จำเป็นจริงๆ
ตรวจสอบส่วนขยายที่กินทรัพยากรมาก
- กด Shift + Esc เพื่อเปิด ตัวจัดการงานของ Chrome
- หรือคลิกเมนูสามจุด > เครื่องมือเพิ่มเติม > ตัวจัดการงาน
- คลิกที่หัวคอลัมน์ หน่วยความจำ หรือ CPU เพื่อเรียงลำดับจากมากไปน้อย
- มองหารายการที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า “ส่วนขยาย” และดูว่ามีตัวใดใช้ทรัพยากรมากเป็นพิเศษ
ลบส่วนขยายที่ไม่จำเป็น
- คลิกไอคอนรูปจิ๊กซอว์ที่มุมขวาบน (เมนูส่วนขยาย)
- คลิกเมนูสามจุดข้างส่วนขยายที่ไม่ต้องการ
- เลือก “Remove from Chrome ” แล้วคลิก “Remove”
การลบส่วนขยายที่ไม่ได้ใช้นอกจากจะช่วยเพิ่มความเร็วแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย เพราะบางส่วนขยายอาจถูกแฮ็กหรือเปลี่ยนเจ้าของไปอยู่ในมือของผู้ไม่หวังดีได้
6. ใช้โหมดประหยัดหน่วยความจำ (Memory Saver)
หากคุณเป็นคนที่ชอบเปิดแท็บไว้หลายสิบแท็บพร้อมกัน นั่นอาจเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ Chrome และคอมพิวเตอร์ของคุณช้าลง ยิ่งเปิดแท็บมาก ยิ่งใช้ RAM มาก ทำให้ระบบหน่วงหรือค้างได้ง่าย
ดูว่าแท็บไหนกินทรัพยากร
เพียงแค่เลื่อนเมาส์ไปวางบนแท็บ จะมีหน้าต่างเล็กๆ แสดงว่าแท็บนั้นใช้หน่วยความจำเท่าไหร่ ถ้าเห็นว่าแท็บไหนกินเยอะ ก็ลองปิดแท็บนั้นหรือบุ๊กมาร์กไว้ก่อน
ใช้ฟีเจอร์ Memory Saver
Google ได้เพิ่มโหมด “Memory Saver” ตั้งแต่ปี 2022 เพื่อช่วยจัดการแท็บที่ไม่ได้ใช้งาน โดยระบบจะปล่อยทรัพยากรจากแท็บที่คุณไม่ได้เปิดดูนานๆ ทำให้แท็บที่คุณใช้งานอยู่เร็วขึ้น
เปิดใช้งานหรือปรับค่าได้ที่
- ไปที่ การตั้งค่า (Settings) > ประสิทธิภาพ (Performance)
- เปิดโหมด Memory Saver และเลือกตั้งค่าเป็น “สูงสุด” หากต้องการให้ Chrome จัดการแท็บให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพิ่มความเร็วด้วยการโหลดล่วงหน้า
- ในหน้า การตั้งค่า > ประสิทธิภาพ เลื่อนลงมาดูที่ส่วน “ความเร็ว”
- เปิดใช้ “การโหลดหน้าล่วงหน้า” เพื่อให้ Chrome เตรียมโหลดเว็บที่คุณน่าจะเปิดไว้ล่วงหน้า
- หากต้องการความเร็วเพิ่มอีก ให้เปิดใช้ “การโหลดล่วงหน้าแบบขยายเวลา” (Extended preloading) – แม้ Google จะต้องเข้าถึงบางเว็บไซต์ที่โหลดไว้ล่วงหน้าก็ตาม
7. รีเซ็ต Chrome เป็นค่าเริ่มต้น
หากลองทุกวิธีแล้วยังรู้สึกว่า Chrome ทำงานช้าอยู่ดี การรีเซ็ตเบราว์เซอร์เป็นการเริ่มต้นใหม่อาจเป็นทางออกที่ดี โดยจะลบการตั้งค่าทั้งหมด ส่วนขยาย และเครื่องมือค้นหาแบบกำหนดเอง คืนค่า Chrome กลับสู่สถานะเหมือนเพิ่งติดตั้งใหม่
ทำได้โดยไปที่ Settings > Reset settings > Restore settings to their original defaults > Reset settings
บทสรุป
Google Chrome ที่ช้าอาจไม่ได้เป็นเพราะเบราว์เซอร์อย่างเดียว แต่อาจมีหลายปัจจัยร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นเน็ตช้า เครื่องติดไวรัส ส่วนขยายเยอะ หรือแท็บเปิดค้างไว้เยอะเกินไป ลองทำตาม 7 วิธีง่ายๆ เหล่านี้เพื่อเร่งความเร็วให้เบราว์เซอร์ของคุณกลับมาทำงานได้เต็มประสิทธิภาพอีกครั้ง และหากยังไม่ดีขึ้น อาจถึงเวลาตรวจสอบว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณควรได้รับการอัปเกรดหรือไม่
ที่มา : https://www.howtogeek.com