หากการรีเฟรชหน้าเว็บไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ขั้นแรกให้ตรวจสอบว่า URL ที่ป้อนนั้นถูกต้อง จากนั้นลองใช้วิธีแก้ไขอื่น ๆ ที่แนะนำด้านล่าง ข้อผิดพลาด “ไซต์นี้ไม่ปลอดภัย” หรือข้อผิดพลาดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาจทำให้คุณไม่สามารถเข้าถึงหน้าเว็บบางหน้าได้ คู่มือนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจสาเหตุของปัญหา วิธีประเมินความเสี่ยง และแนวทางแก้ไขเพื่อลดปัญหาด้านความปลอดภัย
วิธีแก้ไขข้อผิดพลาด ‘การเชื่อมต่อไม่ปลอดภัย’
หากปัญหาเกิดจากเว็บไซต์เอง อาจไม่มีวิธีแก้ไขที่ฝั่งผู้ใช้ แต่หากปัญหาเกิดจากอุปกรณ์ของคุณเอง ลองใช้วิธีต่อไปนี้:
- โหลดหน้าเว็บใหม่ – การรีเฟรชหน้าเว็บเป็นวิธีแก้ไขปัญหาที่ง่ายที่สุด หากยังไม่ได้ผล ให้ปิดและเปิดเบราว์เซอร์ใหม่ทั้งหมด
- ตรวจสอบ URL – ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณพิมพ์ที่อยู่เว็บถูกต้อง เพราะการสะกดผิดเพียงเล็กน้อยอาจนำไปสู่ข้อผิดพลาดนี้ได้
- ล้างแคชและคุกกี้ – การล้างข้อมูลเหล่านี้สามารถช่วยแก้ปัญหาการโหลดหน้าเว็บที่เกิดจากข้อมูลเก่าหรือข้อผิดพลาดของเบราว์เซอร์
- อัปเดตเบราว์เซอร์ – ใช้เบราว์เซอร์เวอร์ชันล่าสุดเพื่อลดปัญหาด้านความปลอดภัยและข้อผิดพลาดในการโหลด
- ปิดใช้งานส่วนขยายของเบราว์เซอร์ – บางส่วนขยายอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดเกี่ยวกับความปลอดภัย ลองปิดใช้งานทั้งหมดและลองโหลดหน้าเว็บใหม่
- ปิดใช้งาน VPN – หากคุณใช้ VPN อาจทำให้เกิดปัญหาการเชื่อมต่อกับบางเว็บไซต์ ลองปิด VPN แล้วลองเข้าถึงเว็บไซต์อีกครั้ง
- ลองเปลี่ยนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต – หากหน้าเว็บโหลดไม่ได้ผ่าน Wi-Fi ให้ลองใช้ข้อมูลมือถือหรือเครือข่ายอื่น และรีสตาร์ทเราเตอร์หากจำเป็น
- สแกนหามัลแวร์ – หากคุณพบข้อผิดพลาดเมื่อเข้าชมเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ เช่น Google หรือ Wikipedia อาจเป็นไปได้ว่าอุปกรณ์ของคุณติดมัลแวร์
- ตรวจสอบซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส – บางครั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสอาจบล็อกการเชื่อมต่อ SSL ลองปิดการสแกน SSL ชั่วคราวเพื่อดูว่าเป็นสาเหตุของปัญหาหรือไม่
- แก้ไขวันที่และเวลาของอุปกรณ์ – วันที่และเวลาที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เบราว์เซอร์ไม่สามารถตรวจสอบใบรับรอง SSL ได้
A title
Image Box text
- ใช้เครื่องมือตรวจสอบใบรับรอง SSL – เครื่องมือเช่น SSL Server Test สามารถช่วยให้คุณตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับใบรับรอง SSL ของเว็บไซต์ได้
- รีเซ็ตเราเตอร์ – หากเราเตอร์ของคุณทำงานผิดปกติ การรีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงานอาจช่วยแก้ปัญหาได้
เราสามารถละเว้นข้อผิดพลาด ‘not secure’ ได้หรือไม่?
หากคุณมั่นใจว่าเว็บไซต์ที่คุณกำลังเข้าชมนั้นปลอดภัย และไม่มีการส่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน คุณสามารถเลือกดำเนินการต่อได้ แต่หากข้อผิดพลาดนี้ยังคงปรากฏอยู่แม้ว่าจะลองแก้ไขทุกวิธีแล้ว นั่นอาจหมายความว่าเว็บไซต์มีปัญหาด้านความปลอดภัยจริง ๆ ดังนั้นควรใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่ง
สาเหตุที่การเชื่อมต่อไม่ปลอดภัย
เบราว์เซอร์จะแสดงข้อผิดพลาด “ไม่ปลอดภัย” เมื่อไม่สามารถตรวจสอบใบรับรอง SSL ของเว็บไซต์ได้ เนื่องจาก SSL เป็นโปรโตคอลที่ใช้เข้ารหัสข้อมูลเพื่อปกป้องความปลอดภัยของข้อมูล หากเบราว์เซอร์พบปัญหากับใบรับรอง SSL เช่น หมดอายุหรือไม่ถูกต้อง จะหยุดโหลดหน้าเว็บและแสดงคำเตือน
สาเหตุที่เป็นไปได้ ได้แก่ :
- เว็บไซต์มีใบรับรอง SSL ที่หมดอายุ
- ใบรับรอง SSL ถูกตั้งค่าไม่ถูกต้อง
- ใบรับรอง SSL ไม่ได้รับการออกโดยองค์กรที่เชื่อถือได้
- ปัญหาจากส่วนขยายของเบราว์เซอร์หรือซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส
- ปัญหาการตั้งค่าของอุปกรณ์หรือเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
เมื่อพบคำเตือนนี้ Chrome จะแสดง “ไม่ปลอดภัย” ถัดจาก URL ส่วน Firefox จะมีเส้นสีแดงผ่านไอคอนแม่กุญแจ และเบราว์เซอร์อื่น ๆ ก็จะมีข้อความเตือนที่คล้ายกัน
บทสรุป
การทำตามแนวทางแก้ไขเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถระบุและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับข้อผิดพลาด “การเชื่อมต่อไม่ปลอดภัย” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในการใช้อินเทอร์เน็ตของคุณ
ที่มา : https://www.lifewire.com